กองทุน SSF ลดหย่อนภาษี คือ รูปแบบการลงทุนที่มีความเหมาะสมกับมนุษย์เงินเดือนเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากผู้ลงทุนจะได้ร่วมลงทุนในกองทุนที่มีนโยบายสร้างผลตอบแทนในสินทรัพย์ที่หลากหลายแล้ว ยังมีสิทธิประโยชน์จากการลดหย่อนภาษีที่จะได้รับอีกด้วย ซึ่งหากใครเป็นมนุษย์เงินเดือนจะทราบดีว่า ภาษีในแต่ละปีนั้นจะขึ้นอยู่กับเงินได้สุทธิ โดยเฉพาะผู้ที่มีเงินได้สุทธิมาก ก็จะต้องเสียภาษีมาก ดังนั้นจึงเป็นเรื่องดีที่ถูกต้องตามกฎหมาย ที่เราจะสามารถนำเงินที่ซื้อกองทุน SSF มาช่วยลดหย่อนภาษี เพื่อให้เงินได้สุทธิลดลง และในบทความนี้เราจะคุยกันถึงเรื่องกองทุน SSF กับการลดหย่อนภาษีกัน
เหตุผลที่มนุษย์เงินเดือนต้องมีค่าลดหย่อนภาษี และกองทุน SSF ลดหย่อนภาษี
ค่าลดหย่อนภาษี และกองทุน SSF ลดหย่อนภาษี คือ เหตุผลสำคัญที่มนุษย์เงินเดือนต้องพึ่งพา และเร่งทำความเข้าใจเพราะเชื่อว่ายังมีมนุษย์เงินเดือนอีกหลายคนที่ยังไม่ทราบว่า ค่าลดหย่อนภาษีคืออะไรกันแน่ และมีความสำคัญอย่างไร ถ้าเช่นนั้นเรามาเริ่มกันที่ความสำคัญของค่าลดหย่อนภาษีกันก่อน ค่าลดหย่อนภาษีคือตัวช่วยทำให้เงินได้สุทธิในแต่ละปีลดลง ความหมายคือ ในแต่ละปี ทุกคนที่มีรายได้ จะต้องมีหน้าที่ชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
โดยภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจะอ้างอิงจากเงินได้สุทธิของแต่ละคน แล้วเงินได้สุทธิมาได้ยังไง โดยทั่วไปแล้วเงินได้สุทธิจะมาจาก รายได้ทั้งหมดต่อปี ลบกับค่าใช้จ่าย จะเท่ากับเงินได้สุทธิ ซึ่งจุดนี้รัฐบาลก็ไม่ได้ต้องการให้ภาษีกลายเป็นภาระของประชาชน จึงได้กำหนดรายการใช้จ่ายบางชนิดขึ้นมา เพื่อช่วยลดหย่อนภาษี ทำให้เงินได้สุทธิลดลง เราเรียกรายการใช้จ่ายที่กฎหมายกำหนดขึ้นมานี้ว่า “ค่าลดหย่อนภาษี” เมื่อนำไปคำนวณเงินได้สุทธิจึงเท่ากับ (รายได้รวมต่อปี – ค่าใช้จ่าย) – ค่าลดหย่อนภาษี = เงินได้สุทธิ นั่นเอง
เมื่อมาถึงตรงนี้มนุษย์เงินเดือนทุกคนคงเห็นภาพแล้วว่า ค่าลดหย่อนภาษีมีความสำคัญต่อการชำระภาษีรายปีเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะผู้ที่มีเงินเดือนสูง ๆ จะทราบดีว่า การชำระภาษีโดยไม่มีค่าลดหย่อนใด ๆ มาช่วยเลย ทำให้มีรายจ่ายที่สูงมากขนาดไหน และคำถามต่อไป คุณคงอยากทราบกันแล้วว่า ค่าลดหย่อนภาษีนี้มีค่าอะไรบ้าง และกองทุน SSF จะช่วยลดหย่อนภาษีให้เราได้มากขนาดไหน คำตอบรออยู่แล้วในหัวข้อถัดไป
ค่าลดหย่อนภาษีมีอะไรบ้าง และกองทุน SSF ลดหย่อนภาษีได้เท่าไหร่
ดังที่กล่าวไปแล้วว่าค่าลดหย่อนภาษี หรือแม้แต่กองทุน SSF ลดหย่อนภาษี เกิดจากแนวคิดที่ต้องการลดภาระเรื่องค่าภาษีของประชาชน รัฐบาลจึงได้มีการออกกฎหมายเพื่อมอบสิทธิประโยชน์ให้กับทุกคนที่มีเงินได้ เพื่อช่วยในการลดหย่อนภาษี ให้มีเงินได้สุทธิลดลง ด้วยการใช้กลยุทธ์ช่วยให้มนุษย์เงินเดือนได้ประหยัดภาษี ผ่านการลงทุนในกองทุน SSF ที่สามารถนำเงินที่ซื้อกองทุนไปลดหย่อนภาษีได้ ซึ่งนอกจากมนุษย์เงินเดือนจะได้จ่ายภาษีในราคาที่ถูกลงแล้ว ยังได้วางแผนสำหรับการลงทุนระยะยาว เพื่อความมั่นคงของชีวิตอีกด้วย ส่วนค่าลดหย่อนภาษีที่เรียกว่าเป็นพื้นฐานสำหรับผู้มีเงินได้ทุกคน ได้แก่
- ค่าลดหย่อนส่วนตัว สำหรับผู้มีรายได้ทุกคน สามารถลดหย่อนได้ทันที
- ค่าลดหย่อนคู่สมรส ซึ่งทั้งคู่ต้องจดทะเบียนสมรสกันอย่างถูกกฎหมาย
- ค่าลดหย่อนบุตร แบ่งเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายของผู้ที่มีเงินได้, บุตรบุญธรรมที่จดทะเบียนตามกฎหมาย และค่าลดหย่อนฝากครรภ์ที่รวมไปถึงค่าคลอดบุตร
- ค่าลดหย่อนอุปการะเลี้ยงดูบิดามารดา
- ค่าลดหย่อนเลี้ยงดูอุปการะคนพิการ หรือผู้ทุพพลภาพ
จะเห็นได้ว่ากลยุทธ์ที่ทางรัฐบาลได้สอดแทรกมาเพื่อให้มนุษย์เงินเดือนได้ประหยัดภาษีมีอยู่ไม่น้อยเลย ต่อไปเราจะไปดูกันว่า นอกจากค่าลดหย่อนภาษีขั้นพื้นฐานที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้น ในส่วนของกองทุน SSF ลดหย่อนภาษีที่เราแนะนำว่ามนุษย์เงินเดือนควรลงทุน จะช่วยประหยัดภาษีไปได้เท่าไหร่
กองทุน SSF (Super Saving Funds) สามารถนำเงินที่ซื้อกองทุนมาหักลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 30% ของรายได้ และสูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท โดยได้กำหนดช่วงเวลาสำหรับการลดหย่อนภาษีเอาไว้ 5 ปี คือ ตั้งแต่ปี 2563-2567 ทั้งนี้หากคุณมีประกันชีวิตแบบบำนาญ การออมและกองทุนเพื่อการเกษียณอายุอื่น ๆ อยู่ด้วย เมื่อรวมกันแล้วจะต้องไม่เกิน 500,000 บาท โดยกองทุนเพื่อการเกษียณอายุนี้ จะหมายถึง กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (Provident Fund), กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน, กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.), กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF), กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) และกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF)
ดังที่กล่าวมาทั้งหมดจะเห็นได้ว่า กองทุน SSF ลดหย่อนภาษี รวมไปถึงค่าลดหย่อนภาษีอื่น ๆ ช่วยให้มนุษย์เงินเดือนสามารถวางแผนการลงทุนระยะยาว ไปพร้อม ๆ กับการวางแผนสำหรับลดหย่อนภาษีในแต่ละปีได้ สิ่งสำคัญที่มนุษย์เงินเดือนไม่ควรพลาดนั่นคือ การหมั่นอัปเดตสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการลดหย่อนภาษีอย่างสม่ำเสมอ และหมั่นศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับการลงทุนในกองทุนที่สนใจให้ละเอียด ครบถ้วน และรอบด้าน ก่อนการลงทุน